การคัดค้านพยานเอกสาร

การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมีหลักเกณฑ์และผลทางกฎหมายที่สำคัญ ดังนี้   ๑. กรณีไม่คัดค้านเอกสาร  – เมื่อคู่ความฝ่ายตรงข้ามไม่คัดค้านการอ้างเอกสาร ศาลจะรับฟังสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับได้ โดยไม่ต้องส่งต้นฉบับมาแสดง – ตัวอย่างในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2539 และ 1165/2541 ชี้ว่าการไม่คัดค้านภายในเวลาที่กำหนดถือเป็นการยอมรับความถูกต้องของสำเนา

 ๒. การคัดค้านโดยไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์  – การคัดค้านว่า “ศาลควรรับฟังเฉพาะต้นฉบับ” ไม่ถือเป็นการคัดค้านตามมาตรา 125 วรรคหนึ่ง – ศาลฎีกาที่ 1165/2541 วินิจฉัยว่าการคัดค้านลักษณะนี้ไม่ห้ามการรับฟังสำเนา ตราบใดที่ไม่มีข้อโต้แย้งเรื่องความถูกต้องของสำเนา

 ๓. การคัดค้านก่อนส่งเอกสารตรวจสอบ  – การคัดค้านต้องกระทำก่อนการสืบพยานเอกสารเสร็จสิ้น ตามมาตรา 125 วรรคสอง – หากคัดค้านล่าช้าเกินไป ศาลไม่อนุญาตให้ยกประเด็นดังกล่าวในภายหลัง

 ๔. การโต้แย้งนอกประเด็นความแท้จริง  – การต่อสู้ว่า “ผู้ลงนามไม่มีอำนาจ” ไม่กระทบความถูกต้องของเอกสาร แต่เป็นประเด็นเรื่องอำนาจการแสดงเจตนา – ศาลฎีกาที่ 1271/2508 ยืนยันว่าการโต้แย้งลักษณะนี้ไม่ใช่การคัดค้านความแท้จริงของเอกสาร

ข้อสังเกตสำคัญ  ๑. เหตุคัดค้านตามมาตรา 125 ต้องอาศัยเหตุผลเฉพาะ  – ไม่มีต้นฉบับ  – ต้นฉบับปลอมบางส่วนหรือทั้งหมด  – สำเนาไม่ตรงกับต้นฉบับ       ๒. ผลของการไม่คัดค้าน  – นำสำเนาสืบแทนต้นฉบับได้ – ไม่อาจโต้แย้งความถูกต้องของสำเนาในภายหลัง – ศาลยังมีอำนาจไต่สวนความสมบูรณ์ของเอกสารได้ ๓. ระยะเวลาคัดค้าน  – ต้องคัดค้านก่อนสืบพยานเอกสารเสร็จ เพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายอ้างนำสืบเพิ่มเติม ๔. ข้อยกเว้น  – แม้ไม่คัดค้าน ศาลอาจพิจารณาความสมบูรณ์ของสัญญาหรือการตีความเอกสารแยกต่างหาก หลักการเหล่านี้สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างการป้องกันการฉ้อฉลด้วยเอกสารปลอม กับการรักษาเสถียรภาพของกระบวนพิจารณา โดยให้ความสำคัญกับการคัดค้านอย่างทันท่วงทีและเป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด #ทนายโตน #0945241915

ใส่ความเห็น